เมื่อเราต้องการที่จะประกอบคอมพิวเตอร์พีซี สำหรับเล่นเกมสักเครื่อง ควรที่จะต้องพิจารณาสิ่งใดบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไปดูกันเลยครับ
1. CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) : ควรเลือก CPU ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Intel Core i5, i7 หรือ i9 ถ้าเป็น AMD ก็แนะนำ AMD Ryzen 5, 7 หรือ Ryzen 9 เพราะซีพียูเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูง และการทำงานที่ราบรื่น อีกทั้งเพื่อรองรับการสตรีมเกมในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นควรเลือกซีพียูแรงๆเผื่อไว้จะดีกว่าครับ แต่สำหรับใครที่งบน้อย และเป็นผู้เล่นเกมส์ระดับเริ่มต้น ก็สามารถเลือกเป็น Core i3 หรือ Ryzen 3 ก็ได้เช่นกันครับ
2. GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) : แน่นอนเราจัดสเปคเพื่อเล่นเกมส์ ควรเลือกการ์ดจอแรงๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง ตัวอย่างเช่น Nvidia Geforce RTX ขึ้นไป ถ้าเป็น AMD Radeon ก็ควรเป็น RX 6000 Series ขึ้นไป และการ์ดจอน้องใหม่ล่าสุด อย่างค่าย Intel ก็แนะนำเป็น Intel Arc 3 ขึ้นไป เพราะว่าการ์ดจอเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่นเกมส์ เพื่อให้ได้อัตราเฟรมเรตที่สูง และกราฟิกในเกมที่ราบรื่น สวยงาม ทำให้ได้อรรถรสในการเล่นเกมส์มากยิ่งขึ้น
3. RAM (หน่วยความจำหลัก) : โดยทั่วไปแล้วพีซีสำหรับเล่นเกมส์ในปัจจุบันควรจะต้องมี RAM ขั้นต่ำอย่างน้อย 16GB ขึ้นไป หรือถ้างบถึงก็จัด 32GB ได้เลย เพื่อการเล่นเกมส์ที่ราบรื่น และยังเผื่อไว้สำหรับโปรแกรมอื่นๆที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งปัจจุบันแรมก็ราคาถูกลงมากแล้ว สามารถอัพเกรดได้ง่ายขึ้นมาก
4. Motherboard : เลือกเมนบอร์ดที่รองรับ CPU, GPU และ RAM ที่คุณเลือก แนะนำว่าควรมี Slot M.2 PCIe เพื่อรองรับ SSD รุ่นใหม่ที่มีความเร็วสูง และถ้ามีงบเยอะควรเลือกมาเธอร์บอร์ดที่มี Slot ใส่ Ram 4 ช่อง เพื่อการอัพเกรดแรมเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
5. Storage (ที่เก็บข้อมูล) : ในปัจจุบันแนะนำให้ใช้ โซลิดสเตตไดร์ (Solid state drive, SSD) โดยจะมีทั้งแบบ SSD M.2 NVMe รุ่นใหม่ ทั้งเร็ว แรงกว่าเดิม เป็นที่นิยมสำหรับเกมเมอร์ เพื่อลดเวลาในการโหลดตัวเกม ทำให้เข้าเกมส์ได้รวดเร็ว โหลดแผนที่ได้เร็วขึ้น ราบรื่น การทำงานที่ไม่สะดุด ส่วน Storage แบบ Harddisk ที่เป็นแบบจานหมุน แนะนำว่าควรใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว เก็บไฟล์งานต่างๆ โดยแยกเป็นไดร์ฟต่างหากเอาไว้
6. PSU (แหล่งจ่ายไฟ) : ควรเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอสำหรับส่วนประกอบทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ โดยเลือกจำนวนวัตต์สูงๆ อย่างน้อย 600 วัตน์ ขึ้นไป(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการ์ดจอที่เราเลือกใช้เป็นสำคัญ และที่สำคัญควรเลือกรุ่นที่ได้มาตรฐาน 80 PLUS เพื่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ของเราอีกด้วย
7. การระบายความร้อน : ตัวระบายความร้อน CPU, พัดลมเคส หรือ แม้กระทั่งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ และป้องกันความร้อนสูงเกินไป เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานอีกด้วย โดยในปัจจุบันราคาของชุดระบายความร้อนด้วยน้ำ ก็มีราคาที่ถูกลงมากแล้ว เพื่อนๆสามารถหาซื้อมาอัพเกรดได้เลยครับ
8. เคส : ควรเลือกขนาดเคสที่สามารถรองรับกับส่วนประกอบทั้งหมดของคุณ ไม่ควรเล็กจนเกินไป จะทำให้ดูแออัด และจัดสายได้ยากขึ้น การดูระบบการไหลเวียนของอากาศที่ดี ทิศทางลม เพื่อให้อุปกรณ์ภายในไม่ร้อนจนเกินไป
9. Monitor (หน้าจอแสดงผล) : การเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมส์ในปัจจุบันนั้น ควรมีขนาดหน้าจออย่างน้อย 23 นิ้ว ขึ้นไป ถ้าเป็นเกมเมอร์ส่วนใหญ่จะใช้ 27 นิ้ว ขึ้นไป เพื่อการมองภาพที่ชัดเต็มตา ความละเอียดของหน้าจอขั้นต่ำ 1080P ขึ้นไป เพื่อให้รายละเอียดที่คมชัด และเลือกจอที่มีค่ารีเฟรชเรท (Refresh Rate) ขั้นต่ำอย่างน้อย 75Hz และ 144Hz ขึ้นไป สำหรับเกมเมอร์ รวมถึงการรองรับเทคโนโลยี FreeSync เพื่อลดอาการฉีกขาดของภาพในขณะเล่นเกมส์อีกด้วย
นี่คือองค์ประกอบหลักที่เพื่อนๆควรพิจารณาเมื่อต้องการประกอบคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม แต่ก็ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น การ์ดเสียง การ์ดเครือข่าย และอุปกรณ์ต่อพ่วงเกมมิ่งเกียร์ เม้าส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมโดยรวมของคุณให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความได้เปรียบเหนือคู่แข่งภายในเกมส์อีกด้วย